วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

อดีตสมาชิกวงรอยัลสไปร์ทเสียชีวิต



เจ้าของบทเพลง “รักสิบล้อต้องรอสิบโมง” ไพรเวศ วงศ์ธนบัตร วง “รอยัลสไปร์ท เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ด้วยวัย 65 ปี ญาตินำศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดลาดพร้าว ศาลา 6


วันนี้ ( 16 ก.ย.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิทยา ศุภพรโอภาส ดีเจวิทยุ เปิดเผยว่า นายไพรเวศ วงศ์ธนบัตร อดีตสมาชิกวง “รอยัลสไปร์ท” ตำแหน่งเครื่องเป่า และในฐานะเจ้าของบทเพลง “รักสิบล้อต้องรอสิบโมง” เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลันที่ ร.พ.วิภาวดี ด้วยวัย 65 ปี โดยมีพิธีรดน้ำศพและบำเพ็ญกุศลที่วัดลาดพร้าว ศาลา 6
นายพิเชฏฐ ศุขแพทย์ หรือ อ๊อด รอยัลสไปร์ท ผู้เรียบเรียงเสียงประสานและตำแหน่งเครื่องเป่าของวง วัย 64 ปี กล่าวว่า ตนทราบข่าวการเสียชีวิตของไพรเวศจากการส่งข้อความของนายเสริมเวช ตอนที่ทราบข่าวตกใจมาก รู้สึกช็อคและวูบเลย เนื่องจากที่ผ่านมาก็มีเจอนายไพรเวศเป็นระยะ ๆ แต่ดูแข็งแรงไม่น่าจะเป็นอะไร เสียใจมากที่เพื่อนจากไปอย่างกระทันหัน อย่างไรก็ตาม วันนี้(16 ก.ย.)ตนอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ คาดว่าไปร่วมงานไม่ทัน น่าจะไปร่วมงานได้ในวันถัดไป
นายไพจิตร ศุภวารี ผู้ดึงวง “รอยัลสไปร์ท” มาแสดงภาพยนตร์ “เพลงรักก้องโลก” เป็นครั้งแรก อายุ 72 ปี กล่าวว่า ไม่ทราบข่าวนี้มาก่อนเลย รู้สึกตกใจมาก เจอนายไพรเวศล่าสุดเมื่อ 2 ปีก่อนก็ยังทักทายกันโหวกเหวกโวยวาย สนุกสนานแข็งแรงมาก ไม่มีเค้าว่าจะป่วยเลย อีกอย่างเขาเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีมาก รู้สึกเสียดายที่วงการเพลงต้องมาสูญเสียทรัพยากรบุคคลที่มีฝีมือไปอีกคน
“วงนี้แต่ก่อนดังมาก คนติดต่อไปร่วมงานเยอะ แต่พวกเขาสัญญากันว่าเวลารับงานต้องไปทำด้วยกันหมด ไม่มีใครฉายเดี่ยว ถือว่าเป็นตัวอย่างการทำงานทีมเวิร์คที่ดีมาก อย่างไรก็ตามคงจะเดินทางไปร่วมงานของนายไพรเวศหลังจากวันที่ 17 ก.ย. นี้ เนื่องจากต้องทำพิธีเก็บศพของอดีตภรรยา ภาวนา ชนะจิต เสียก่อน” นายไพจิตร กล่าว

ที่มา เดลินิวส์ 

“กิเลนผยอง” บุกพิชิต “กงจักรพิฆาต”




“กิเลนผยอง” บุกพิชิต “กงจักรพิฆาต” 2-1 นำโด่ง “ไทยลีก” จ่อแชมป์สดใส ส่วน “กูปรีอันตราย” ทำพลาด ! เล่นในถิ่นปล่อยให้ “กว่างโซ้งมหาภัย” ตามเจ๊า 3-3 ขณะที่ “นกใหญ่พิฆาต” โค่น “ปลาทูคะนอง” ไม่ได้เสมอกัน 1-1

 


  ศึกลูกหนัง “สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2012” เลกที่ 2 เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่สนามกีฬากองทัพบก “ตรากงจักร” อาร์มี่ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 6 ลงเตะ 26 นัด 38 แต้ม เปิดบ้านรับ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง ลงเตะ 26 นัด มี 64 คะแนน ซึ่ง “ทัพบก” จัดการส่ง ชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม, จักรพงษ์ สมบูรณ์, วันชนะ รัตนะ ลงมาคุมเกม ขณะที่ “แข้งกิเลน” เปลี่ยนนักเตะหลายคน แต่ยังส่ง ธีรศิลป์ แดงดา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, จักรพันธ์ พรใส ลงสนาม
  เริ่มเกม “กิเลนผยอง” ที่ทำแต้มทิ้งห่างอันดับ 2 ชลบุรี อยู่ 10 แต้ม  ต่อเกมรุกได้น่ากลัวว่า แม้ฝนจะตกลงมาอย่างหนัก ทำให้สนามนำมีนองเป็นจุดๆ นาทีที่ 25 ดานโญ่ เซียก้า ก็ได้จังหวะทำประตูให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ออกนำไปก่อน 1-0 จากนั้นนาทีที่ 33 “อดีตแชมป์ 2 สมัย” มาได้ลูกโทษที่จุดโทษ และ  อัดนัน บาราคัต รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ “ทีมเยือน” นำห่าง 2-0
  เข้าครึ่งหลัง “กงจักรพิฆาต” พยายามฮึดสู้ แต่ก็ไม่สามารถเจาะแผงหลัง “กิเลนผยอง” เข้าไปทำประตูได้ ส่วน “ทีมเยือน” ก็มีจังหวะจะทำประตูอีกหลายครั้งแต่ว่าพลาดไป จนกระทั่งนาทีที่ 90 อเล็กซานโดร อัลเวส ก็หลุดเข้าไปทำประตูจีไข่แตกให้กับ “เจ้าบ้าน” ไล่ตามมา 1-2 แต่ก็ไม่ทัน จบเกม อาร์มี่ ยูไนเต็ด เลยพ่าย เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-2 ทำให้ “พลพรรคกิเลน” เก็บเพิ่มเป็น 67 แต้ม โอกาสคว้าแชมป์สดใส แม้ว่าจะเหลืออีก 7 เกมก็ตาม
  ที่สนามทุ่งบูรพา จังหวัดอุบลราชธานี “กูปรีอันตราย” อีสาน ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 8 ลงเตะ 26 นัด มี 36 แต้ม ลงสนามพบกับ “กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 10 ลงเตะ 26 นัด มี 31 คะแนน ปรากฏว่า ทั้ง 2 ทีมเปิดเกมรุกเข้าสู้กัน นาทีที่ 2 อันโตนิโอ เคลาดิโอ ทำประตูให้ “กว่างโซ้งหมาภัย” ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ “กูปรีอันตราย” จะมาได้ 2 ประตูจาก ชายาเน่ ซานโต๊ส นาทีที่ 22 และ วุฒิชัย ทาทอง นาทีที่ 40 ทำให้พลิกกลับขึ้นมานำ 2-1 จากนั้น นาทีที่ 52 วุฒิชัย ทาทอง มาพังประตูให้ อีสาน ยูไนเต็ด นำห่าง 3-1 แต่ “กว่างโซ้งอันตราย” มาทำได้ 2 ประตูรวดจาก นันทวัฒน์ แทนโสภา นาทีที่ 70 และ วสันต์ นาทะสัน นาทีที่ 80 จบเกมเลยเสมอกันไปแบบตื่นเต้น 3-3
  ที่สนามเขาพลองจังหวัดชัยนาท “นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ทีมอันดับ 14 ลงเตะ 26 นัด มี 26 แต้ม เปิดบ้านรับ “ปลาทูคะนอง” สมุทรสงคราม ทีมอันดับ 13 ลงเตะ 26 นัด มี 30 คะแนน ซึ่ง 2 ทีมต้องการคะแนน เพื่อจะหนีจากกลุ่มหนีการตกชั้น ปรากฏว่า นาทีที่ 34 เคนดัลล์ ทำประตูให้ “เจ้าถิ่น” ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ ดียุฟ บีรัม จะมาตีเสมอให้ “แม่กลอง” ในนาทีที่ 50 จบเกมเลยเสมอกันไป 1-1

"ลูกยางสาวไทย"คว้าแชมป์ "เอเชี่ยนคัพ" สมัยแรก



ลูกยางสาวไทยตบกระจายเอาชนะ “จีน” ดีกรีแชมป์เก่า 2 สมัย สุดสนุก 3-1 เซต ซิวแชมป์วอลเลย์บอลหญิง “เอเชี่ยนคัพ ” ได้เป็นสมัยแรก ขณะที่ “เจ้าภาพ” คาซัคสถาน คว่ำเวียดนาม คว้าที่ 3



การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงรายการเอเชี่ยนคัพ 2012 ที่เมืองอัลมาตี้ ประเทศคาซัคสถาน เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ทีมสาวไทยที่คว้าตั๋วไปเล่นศึกเวิลด์กรังปรีซ์ ในปีหน้าแน่นอนแล้ว ลงสนามในรอบชิงชนะเลิศพบกับสาวจีนดีกรีแชมป์เก่า 2 สมัยที่ได้สิทธิ์ไปเล่นเวิลด์กรังปรีซ์เช่นกันจากสิทธิ์อัตโนมัติ สำหรับเกมนี้ “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมลูกยางสาวไทยส่งนักกีฬาตัวหลักลงสนามครบครัน
  เปิดฉากเซตแรกสาวไทยได้แต้มขึ้นนำไปก่อน 1-0 แต่ทีมจีนเก็บรวดเดียว 4 คะแนนรวด ขึ้นนำ 5-1 ก่อนที่สาวไทยจะตั้งเกมได้ไล่มาเสมอ 7-7 จากนั้นรูปเกมเป็นไปอย่างสนุกสูสี ยิ่งช่วงท้ายทั้งคู่ทำคะแนนเบียดกันแต้มต่อแต้มชนิดบีบหัวใจกองเชียร์ และเป็นสาวไทยขึ้นแท่นนำไปก่อน 24-23 แต่อาหมวยจากแดนมังกรไม่ยอมง่ายไล่มา 24-24  เกมยังดำเนินไปอย่างเข้มข้น และสาวไทยได้ถึง 6 เซตพ็อยต์ก่อนปิดเซตเอาชนะไป 30-28
  เซตสองสต๊าฟฟ์โค้ชจีนปรับแผนส่งมือเซตตัวจริง  เหวย จีหยู ลงสนามมากู้สถานการณ์ แม้จะทำให้ขึ้นนำไทย 17-13 แต่ก็ถูกสาวไทยไล่มา 18-18 จนต้องส่ง จาง เซียน ลิเบอร์โรคนเก่งมาช่วยอีกแรง แต่กลับโดนสาวไทยขึ้นแท่นไปก่อน 24-22 ทว่าไม่สามารถปิดเซตได้โดนจีนที่เล่นได้แน่นอนกว่าเอาชนะไป 27-25 ไล่มาเสมอ 1-1 เซต
  เซตสามสาวไทยโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมทั้งเกมรุก และเกมรับขึ้นนำห่าง 21-13 ก่อนเอาชนะไป 25-21 จากนั้นในเซตสี่ ทีมจีนอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝาแพ้อีกไม่ได้ ตัดสินใจส่ง จาง เหลย และหม่า ยุนเหวิน นักตบตัวเก่งลงสนาม แต่สาวไทยยังผนึกกำลังเล่นได้อย่างลงตัวเอาชนะไป 25-20 สรุปทีมไทยชนะ 3-1 เซต 30-28, 25-27, 25-21, 25-20 คว้าแชมป์รายการเอเชี่ยนคัพได้เป็นสมัยแรกสำเร็จ
  สำหรับการชิงอันดับ 3 “เจ้าภาพ” คาซัคสถาน ชนะ เวียดนาม 3-0 เซต 25-18, 25-20, 25-16 ทำให้ คาซัคสถาน คว้าอันดับ 3 ไปครอง พร้อมกับได้สิทธิ์ไปแข่งขันรายการเวิลด์กรังปรีซ์ ในปีหน้า สรุปทีมเอเชีย 4 ทีมที่ได้สิทธิ์เล่นเวิลด์กรังปรีซ์ 2013 ได้แก่ จีน กับญี่ปุ่น ที่ได้สิทธิ์อัตโนมัติ ส่วนไทยกับคาซัคสถาน ได้สิทธิ์ในฐานะ 2 ทีมที่อันดับดีที่สุดในรายการนี้

มี่มา เดลินิวส์ 

วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555




เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายปิ่นสาย สุรัสวดี นักวิชาการภาษีชำนาญการพิเศษ กรมสรรพพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรไม่ได้เรียกตรวจสอบข้อมูลดารา นักแสดง เพิ่มเติม แต่หน้าที่ของกรมก็มีการตรวจสุ่มการเสียภาษีของดารา นักแสดงอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเสียภาษีแบบรายเดือน แบบรายครึ่งปี หรือแบบรายปี ซึ่งการตรวจสอบไม่ได้เป็นข่าว เพียงแต่ยื่นหนังสือเป็นรายบุคคล แต่กรณีของ พลอย  เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์  เป็นประเด็นข่าวเรื่องเลยดังขึ้นมา ทำให้ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเสียภาษีย้อนหลังอย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถบอกได้ว่ากลุ่มดารา นักแสดงที่เสียภาษีมีจำนวนเท่าไร จากผู้ที่เสียภาษีทั้งหมด 9 ล้านราย โดยขั้นตอนในการตรวจสอบต้องใช้เวลา เนื่องจากฐานข้อมูลที่มีจำนวนมากและเพิ่งได้รับคำสั่งมาจากรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา
นายปิ่นสาย กล่าวว่า ในวันที่  5 ก.ย.นี้ กรมสรรพกรดำเนินการจัดอบรมสัมมนาให้ความรู้ด้านภาษีแก่บุคคลสาธารณะที่ไม่ได้มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำหรือเป็นผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40(8) โดย “นักแสดงสาธารณะ” หมายความว่า นักแสดงละคร ภาพยนตร์ วิทยุ โทรทัศน์ นักร้อง นักดนตรี นักกีฬาอาชีพ หรือนักแสดงเพื่อความบันเทิงใด ๆ ไม่ว่าจะแสดงเดี่ยว เป็นหมู่หรือคณะ หรือแข่งขันเป็นทีม โดยรูปแบบจะให้ข้อมูลและขั้นตอนการเสียภาษีก่อนหน้านี้ กรมสรรพากรจัดสัมมนาให้ความรู้ด้านภาษีให้กับดารา นักแสดง อยู่เสมอ แต่จะมีเพียงผู้จัดการที่เข้ามารับฟังเท่านั้น ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ อยากให้ดารา นักแสดง เข้ามารับฟังอย่างจริงจัง เพื่อจะได้รับรู้ในขั้นตอนต่างๆ ของการเสียภาษี รวมทั้ง ผู้คนที่สนใจก็สามารถเข้ารับฟังได้อีกด้วย.
มีรายงานว่า ทางกรมสรรพากรเตรียมเรียกบรรดาซูเปอร์สตาร์ทั้งหลายที่พ่วงตำแหน่ง เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ พรีเซนเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น '' อั้ม'' พัชราภา ไชยเชื้อ, ณเดชน์ คูกิมิยะ, ''ญาญ่า'' อุรัส ยา เสปอร์บันด์, ''ชมพู่'' อารยา เอ ฮาร์เก็ต, ''แพนเค้ก'' เขมนิจ จามิกรณ์, ''เป้'' อารักษ์ อมรศุภศิริ, ''โดม'' ปกรณ์ ลัม, อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, แอน ทองประสม ฯลฯ รวมถึงดาราสาวที่ตกเป็นข่าวฉาวในขณะนี้ก็คือ ''พลอย'' เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ มาชี้แจงเกี่ยวกับภาษีเงินได้ในแต่ละปีอีกด้วย
ที่มา เดลินิวส์

วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

 


กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทุกทีเเล้ว สำหรับกรณีที่ พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ มีปัญหากับออแกไนเซอร์แล้วถูกแฉเรื่องพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งดาราสาวก็ออกมาตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์เรื่องนี้ทำเอาเเฟนหนุ่มของพลอยอย่าง นาวิน ต้าร์ ถึงกับเดือดจัด โพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษลงในอินสตาแกรม มีเนื้อหาเชิงจิกกัดว่า พวกที่อยู่หลังคีย์บอร์ดเป็นพวก "โง่"
ส่วนข้อความที่นาวิน ต้าร์ โพสต์นั้น มีใจความว่า " On the internet You can be anything you want. It's strange so many people choose to be stupid" หรือแปลเป็นภาษาไทยคือ "บนโลกของอินเทอร์เน็ตนั้น คุณสามารถเป็นอะไรก็ได้อย่างที่ต้องการ แต่มันก็น่าแปลกนะ ที่หลาย ๆ คนเลือกที่จะเป็น คนโง่"
และยังมีอีกหนึ่งข้อความ คือ "Hiding behind an alias does not give anyone the right to insult and offend others" หรือแปลเป็นภาษาไทยคือ "การซ่อนตัวอยู่ใต้นามแฝง ไม่ได้ให้สิทธิที่คุณจะสามารถพูดจาดูถูกดูแคลนคนอื่นหรือ ยั่วยุคนอื่นได้"
นอกจากนี้ ยังมีข้อความที่เขียนกำกับเอาไว้ว่า "Identify yourself before criticizing someone! It's not like we want to know you, it's just because you won't dare saying all those stupid things." หรือแปลเป็นภาษาไทยคือ "ระบุตัวตนของคุณออกมา ก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น เราไม่ได้อยากรู้หรอกว่าคุณคือใคร เเต่เพราะว่า คุณคงไม่กล้าพูดเรื่องโง่ ๆ ทั้งหมดออกมา ถ้าตัวตนของคุณถูกเปิดเผย"
ด้าน นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากมีปัญหาการหลีกเลี่ยงภาษีของดารานักแสดง กระทรวงการคลังจึงมอบหมายให้กรมสรรพากร เตรียมเปิดเวทีเชิญดารานักแสดง พิธีกร นักกีฬา ที่เป็นบุคคลสาธารณะ มารับฟังแนวทางการเสียภาษีอย่างถูกต้อง เพราะเป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาชนชื่นชอบและเอาเป็นแบบอย่าง หากบุคคลเหล่านี้เสียภาษีอย่างถูกต้องจะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนทั่วไป
โดยงานดังกล่าวจะมีการชี้แจงการมีรายได้พิเศษหรือรายได้หลัก การรับเงินรางวัล หรือรายได้ทุกประเภท แม้จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้วจะต้องมีหน้าที่ยื่นแบบเสียภาษีในช่วงปลายปีด้วย คาดว่าจะจัดงานได้ในช่วงกลางเดือนกันยายน 2555 นี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยในการเสียภาษี สอบถามได้ที่สายด่วน 1161 ตั้งแต่เวลา 08.45-18.00 น.
ที่มา บางกอกทูเดย์  
ข่าวบันเทิง 

วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

'วิว' พาเพื่อนสี่ขา 'ริชชี่' ทำสปา



ไปเที่ยวเริงร่าที่นั่นที่นี่มาก็เยอะแล้ว วันนี้ “ก้อยโกะ” เลยขอเอาใจคนรักสัตว์เลี้ยงกันบ้าง ชักชวนนางเอกสาว วิว-วรรณรท สนธิไชย นำเจ้า “ริชชี่” ลูกหมาน้อยสีน้ำตาลพันธุ์ “ปอมเมอเรเนียน”  ไปอาบน้ำแร่แช่น้ำนมซะหน่อย ครั้นจะไปร้านธรรมดาแถวบ้านก็จะไม่เก๋ เลยนัดแนะสาววิวมาเจอกันที่ร้าน “ทวิงเคิ้ล ด็อก โฮม” ที่ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าเซน ซะเลย ขอบอกว่าไฮโซไม่ธรรมดาจริง ๆ

มาถึงปุ๊บก็เห็นสาววิวกำลังอุ้มเจ้าริชชี่นั่งรออยู่แล้ว ทางร้านก็เติมน้ำเต็มอ่างเพื่อให้เจ้าริชชี่ว่ายน้ำออกกำลังแขนและขาซะก่อน พอถูกจับลงอ่างน้ำปุ๊บริชชี่ก็ดิ้นลนลานใหญ่ ว่ายไปก็เมียงมองหาวิวไปใจจะวิ่งหาวิวอย่างเดียว งานนี้ถึงริชชี่จะว่ายน้ำ แต่เจ้าของก็พลอยเปียกไปด้วย น้ำกระเด็นใส่วิวโครมใหญ่จากนั้นก็พาเจ้าริชชี่ ไปนวดประคบทำสปาผ่อนคลายท่าทางจะสบายจริง ๆ หน้าริชชี่เลยเคลิ้มจนเกือบหลับ นวดประคบเสร็จเรียบร้อย ก็ปิดท้ายด้วยการอาบน้ำส่งท้าย หน้าของเจ้าริชชี่ดูแฮปปี้มาก ๆ ช่วงที่ต้องเป่าและแปรงขน ขนฟูฟ่องน่ารักสุด ๆ แถมด้วยการฉีดสเปรย์โอโซนให้กลิ่นชื่นใจแถมยังช่วยผ่อนคลายน้องริชชี่อีกต่างหาก พอเห็นเจ้าริชชี่มีความสุข วิวก็พลอยสำราญใจไปด้วยตามประสาคนรักสุนัข

วิว กล่าวว่า “ปกติแล้ววิวไม่ค่อยมีเวลาอาบน้ำให้ริชชี่สักเท่าไหร่ เพราะมัวแต่ถ่ายละคร คิวไม่ค่อยว่าง วันนี้ได้มาอาบน้ำพาเขามาทำสปา ก็สนุกดีได้ใช้เวลาร่วมกับเขาบ้าง แต่ริชชี่ค่อนข้างจะกลัวตอนที่ว่ายน้ำ เพราะปกติเอาเขาอาบน้ำฉีดน้ำใส่ธรรมดา คราวนี้มาลงอ่างที่ลึกนิดนึง เขาไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ว่ายลนลานจนน้ำกระเด็นใส่วิวเต็มตัวไปหมดเหมือนวิวอาบน้ำไปกับเขาด้วย อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงคนเลี้ยงสุนัข วิวอยากให้ทุกคนให้เวลากับน้องหมากันเยอะ ๆ เพราะชีวิตเขาก็มีแค่เราคนเดียว วัน ๆ เขาจะคิดถึงแต่เจ้าของ กลับบ้านไปก็เล่นกับเขาบ้าง เพราะเขาก็รอเรามาทั้งวันแล้ว ส่วนคนที่กำลังคิดจะซื้อสัตว์มาเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหน ต้องคิดให้หนัก อย่าเลี้ยงแค่ตอนเขาน่ารัก ตอนเขาแก่หรือเจ็บป่วยเราต้องถามตัวเองว่าเราพร้อมจะดูแลเขามั้ย  เพราะการเลี้ยงสัตว์ค่าใช้จ่ายจิปาถะค่อนข้างสูง อย่าเลี้ยงเขาแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ก็อยากฝากตรงนี้ด้วยค่ะ”.
ก้อยโกะ
ที่มา เดลินิวส์

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

น้ำ รพีภัทร แฟนสาวคลอดลูกชาย



น้ำ รพีภัทร เผยแฟนสาวคลอดลูกชาย สุดปลื้มตั้งชื่อ"น้องณพรรณพ"
วันนี้ (15 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มินตรา-ชนิศา เหลี่ยวไชยพันธุ์  ภรรยาสาวของ น้ำ-รพีภัทร เอกพันธ์กุล นักแสดงชื่อดัง ได้คลอดลูกชายแล้ว เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลา 19.30 น. ที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ด้วยวิธีผ่าตัด ตั้งชื่อว่า น้องโอเชี่ยน หรือ ด.ช. ณพรรณพ (อ่านว่า นะพันนพ) แปลว่าทะเลทั้งเก้าโดยชื่อนี้ โก๊ะตี๋ อารามบอย เป็นคนตั้งให้ โดยมีน้ำหนักแรกเกิด 2,755 กรัม
คุณแม่มือใหม่ มินตรา-ชนิศา เปิดเผยว่า ตอนเห็นหน้าลูกครั้งแรกก็ตื่นเต้นมาก แต่ตอนนั้นยังเบลอยาบล็อกหลังอยู่ แต่พออยู่ในห้องพักฟื้น ได้เห็นหน้าลูกอีกครั้งก็รู้สึกซึ้งมาก ซึ่งพี่น้ำก็เข้าไปให้กำลังใจในห้องคลอดด้วย และหลังจากคลอดแล้วพี่น้ำก็ดูแลอย่างดี มีคุณแม่พี่น้ำมาช่วยดูแลด้วย พี่น้ำเห่อลูกมาก เขาบอกว่าไม่อยากไปทำงานเลย อยากมองหน้าลูกนาน ๆ ตอนนี้ก็ตั้งใจจะเลี้ยงลูกเอง และก็ให้นมเองด้วย ส่วนในงานในวงการบันเทิงนั้นถ้ามีก็ทำ ถ้าไม่มีก็ไม่ซีเรียส
ด้านน้ำ-รพีภัทร เปิดเผยว่า ได้เห็นหน้าลูกแล้วก็รู้สึกว่ากลไกการมีลูกมันมหัศจรรย์มาก เราไม่สามารถจินตนาการออกว่าลูกจะมีหน้าเป็นอย่างไร พอเห็นหน้าเขามันมีหลายความรู้สึกมาก ตอนนั้นทั้งเป็นห่วงมินตรา ตื่นเต้น งง ซึ่งทุกอย่างมันไม่เคยเกิดขึ้นกับผม หลังจากนี้ถ้าได้เล่นละครบทพ่อนี่คงจินตนาการและเข้าถึงบทได้ง่ายขึ้น ตอนแรกที่รู้ว่ามีลูกผมก็บอกมินตราว่า ผมจะดูแลมินตรา และให้มินตราดูแลลูก แต่พอตอนนี้มันไม่ได้ ผมก็คงต้องดูแลทั้งลูกและมินตรา ดูหน้าลูกแล้วผมว่าหน้าเขาเหมือนมินตรามาก ตอนนี้ผมถ่ายละครอยู่ 2 เรื่อง แต่โชคดีที่กองถ่ายอยู่ใกล้บ้าน พอมีเวลาว่างก็แว๊บกลับมาดูแลลูกได้ เห็นหน้าเขาแล้วก็ไม่อยากไปไหน อยากอยู่กับเขานาน ๆ สำหรับการเลี้ยงลูกนั้นคงไม่ได้วางแผนอะไรมากมาย คงให้เขาเต็มที่ในเรื่องการเรียน แต่เขาจะชอบอะไรนั้นก็แล้วแต่เขา เราส่งเสริมเต็มที่ แต่ตอนนี้คงดูแลแค่ให้แข็งแรง และกินนมแม่เก่ง ๆ เท่านั้นเอง ส่วนชื่อที่ให้พี่โก๊ะตี๋ตั้งให้นั้น เพราะเขารู้เรื่องราวผมมาตลอด ตั้งแต่ท้องจนคลอด และเขาเองก็มีลูกไม่ได้ตามที่เรารู้กันอยู่ เลยบอกให้เขาตั้งชื่อลูกให้แทน พี่เขาก็ไปหาชื่อมาจนได้ชื่อนี้มา ซึ่งแปลว่า ทะเลทั้ง 9 และบังเอิญก็ไปคล้องกับชื่อเล่นที่ผมคิดเอาไว้อยู่แล้วคือ โอเชี่ยน
สำหรับ น้ำ-รพีภัทร และ มินตรา-ชนิศา นั้นเพิ่งจัดงานแต่งงานกันไปเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 55 ที่โรงแรมเซ็นทารา ดวงตะวัน จ.เชียงใหม่ และฉลองสมรสไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 55 ที่ร้านคูล เฮ้าส์ ถ.เกษตร-นวมินทร์

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

'ปู' รับเป็นคนถ่ายรูปครอบครัว 'โน้ต'


งานเข้า ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก อีกรอบแล้ว เมื่อมีภาพลงอิน สตาแกรมเป็นภาพครอบครัวของ โน้ต-วิเศษ รังสีสิงห์พิพัฒน์ แต่มีภาพสาวปูซึ่งเป็นคนถ่ายรูปนั้นสะท้อนกระจกออกมา ทั้ง ๆ ที่ปูเคยบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกันและไม่เจอโน้ตเลย งานนี้เลยต้องไปถามสาวปูในงานแถลงข่าวเปิดตัวพีเอสไอทรูทีวี โรงแรมเซ็นทารา เซ็นทรัล ลาดพร้าว พร้อมทั้งอัพเดทอาการป่วยของสาวปูที่ได้ข่าวว่าเพิ่งออกจากโรงพยาบาล

“ปูเป็นไมเกรนกับโรคกระเพาะอักเสบค่ะ นอนโรงพยาบาล 4-5 วัน ช่วงที่เรียนเราก็รีบเรียน กลับมาก็เร่งทำงานตลอดเลยเหนื่อยเป็นเรื่องธรรมดา แล้วอีกอย่างรีบรีดน้ำหนักด้วยร่างกายเลยทรุด แต่ตอนนี้โอเคแล้ว” ช่วงนี้เครียด ๆ หรือเปล่า? “ไม่มีค่ะ เวลาทำงานเราก็ซีเรียสกับงานของเรา เพราะปูก็อยากให้งานออกมาดี เราเลยคิดกับมันเยอะ” แล้วโน้ตไปเยี่ยมหรือเปล่า? “เป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องไปเยี่ยมก็ได้ ช่วงนี้ไม่สบายขอรักษาตัวเองดีกว่า ปกติเวลาเข้าโรงพยาบาลครอบครัวปูก็ไม่ให้ไปเยี่ยมนะคะ เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาพักผ่อนของเรา โน้ตเขาทำงานคนละสายงานกับปู ก็ไม่ค่อยอยากจะพูดอะไรมากมาย”
แต่ล่าสุดมีภาพเราถ่ายรูปให้กับครอบครัวโน้ต? “ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกค่ะ เป็นเพื่อนกัน ก็ไม่เป็นไรค่ะ รู้จักครอบครัวเขา” ยอมรับว่าในรูปก็คือเรา? “ยังไงทุกคนก็เห็นแล้ว ก็เป็นเพื่อนกันค่ะ เรื่องนี้ปูไม่ค่อยอยากตอบเท่าไหร่ เพราะเขาไม่ใช่คนในวงการ ทำงานคนละสายงาน ตอบเท่าที่ตอบได้ มีรูปปูก็โอเค มีก็เป็นเพื่อนกัน” โน้ตว่ายังไงบ้าง? “ยังไม่ได้เจอใครเลยค่ะ เราเห็นรูปก็เฉย ๆ ไม่ได้อะไร เพราะไม่ใช่เรื่องแปลก ช่วงนี้รักษาตัวไม่ค่อยเจอใครเลย ปูเฉย ๆ ไม่มีเรื่องต้องซีเรียสเลย ปูไม่ได้พูดตั้งแต่แรกแล้วว่าคบหรือไม่คบ เวลาคนตีความว่าเลิกปูก็ไม่อยากให้มีอะไรเลย สู้เราไม่พูดอะไรเลยดีกว่า”
ในภาพก็ดูสนิทเพราะมีแต่คนในครอบครัว? “ปูพร้อมหรือมั่นใจเมื่อไหร่ถึงจะพูด ตอบเท่าที่ตอบได้ดีกว่า เดี๋ยวมีอะไรอีกจะเล่าให้ฟัง” ช่วงหนึ่งเราเคยบอกว่าห่างโน้ต? “ปูว่าปูไม่เคยพูด แต่พอพูดน้อยก็ตีความเข้าใจผิดได้ และภาษาไทยบางคำปูไม่ค่อยถนัดด้วย สู้พูดน้อยดีกว่าจะได้ไม่เป็นประเด็น” สรุปยังสนิทโน้ตเหมือนเดิม? “ทุกคนเป็นเพื่อน ปูไม่อยากขยายความเรื่องนี้เท่าไหร่ ขอแค่นี้ไปก่อน” เป็นเพื่อนสนิทมั้ย? “เพื่อนดีกว่าค่ะ (หัวเราะ)” แต่ภาพวันนั้นเป็นวันเกิดน็อตพี่ชายโน้ตใช่มั้ย? “ให้ดูที่อินสตาแกรมแล้วกันว่างานอะไร เรื่องไหนตอบได้ตอบให้  เรื่องไหนไม่มั่นใจ ขอตอบเรื่องงานดีกว่า

วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555

น้องณี" น้ำตาซึม พ่อ" จากไปไม่มีวัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ส.ค. นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผวจ.สระแก้ว  เป็นประธานทำพิธีรดน้ำศพ นายสวัสดิ์ จิงเฉลิมมิตร อายุ 65 ปี บิดาของน.ส.สุธิยา จิวเฉลิมมิตร  หรือ น้องณี นักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติไทย   เจ้าของโรงงานพืชไร่ รุ่งเรืองพืชผล  ตั้งอยู่ ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว  หลังประสบอุบัติเหตุ  ถูกกองซังข้าวโพดถล่มทับขณะกำลัง เดินตรวจงานในโรงงานของตนเอง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา อาการสาหัสถูกนำส่งรพ.และแพทย์ช่วยเยื้อชีวิตได้ 7 วัน กระทั่งนายสวัสดิ์ จากไปอย่างสงบเมื่อเวลา  07.00 น.ของวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา
จากนั้น ญาติๆได้นำศพมาประกอบพิธีแบบไทยจีนที่ วัดถ้ำเขาฉกรรจ์  และเตรียมโลงจำปาและสถานที่ไว้รอตั้งศพอย่างสมเกียรติ  โดยมีญาติพี่น้อง ประชาชน พ่อค้าคหบดี ข้าราชการในจังหวัดที่รู้จักคุ้นเคย และแฟนกีฬาที่ติดตามเชียร์น้องณี มาตลอดเดินทางมาร่วมพิธีอย่างล้นหลาม 
ขณะที่ศพเคลื่อนมาถึงวัด น้องณี ได้นำปืนยาวคู่ใจ ที่ใช้แข่งขัน ยิงขึ้นฟ้า 65 นัด เพื่อเป็นการส่งวิญญาณของพ่อไปสู่สรวงสวรรค์ โดยขณะยิงปืนน้องณีได้ร่ำไห้น้ำตาซึมด้วยความอาลัยรัก คุณพ่อที่ต้องมาด่วนจากไปอย่างกะทันหัน ซึ่งนับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว โดยศพจะถูก ตั้งสวดพระอภิธรรมทุก คืนเว้นวันที่ 12 ส.ค. เมื่อครบ 7 วัน จะบรรจุศพในวันที่ 19 ส.ค.

วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ตุ๊ก'' จูงมือน้องแพรว - น้องภูมิ


นาทีนี้ไม่มีใครฮอตเกินคุณแม่คนเก่ง ตุ๊ก-ชนกวนันท์ รักชีพ กับลูก ๆ ที่น่ารักอย่าง น้องแพรว และ น้องภูมิ ไปซะแล้ว วันสำคัญอย่าง “วันแม่แห่งชาติ” นี้ แม่ตุ๊กเลยทั้งอุ้มทั้งจูง น้องแพรวและน้องภูมิ ไปเที่ยวชิลชิล ตามประสาแม่ ๆ ลูก ๆที่สยามโอเชี่ยน เวิร์ล ศูนย์การค้าสยามพารากอน และเพื่อเป็นการต้อนรับวันแม่แห่งชาติ ที่นี่เขาเลยมีการจัดแสดงอาณาจักรม้าน้ำแห่งโลกใต้ทะเลใจกลางกรุงเทพฯ ให้น้อง ๆ หนู ๆ ได้ชมกันอย่างจุใจ เพราะม้าน้ำนั้นมีลักษณะนิสัยที่ถือเป็นตัวอย่างของผู้นำครอบครัวไม่ว่าหญิงหรือชายที่มีความแข็งแกร่งในการเลี้ยงลูก โดยความพิเศษของม้าน้ำคือจะทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ปก ป้องลูกน้อยจากบรรดาศัตรูตัวฉกาจในท้องทะเล

พอรู้อย่างนี้แล้วแม่ตุ๊กไม่พลาดที่จะพาลูกทั้งสองไปสัมผัสม้าน้ำตัวน้อยอย่างใกล้ชิด ซึ่งม้าน้ำที่ทางสยามโอเชี่ยน เวิร์ลนำมาจัดแสดงนั้นมีหลากหลายสายพันธุ์จากทุกมุมโลกจริง ๆ อาทิ ม้าน้ำท้องป่อง ที่พบได้ในออสเตรเลียและนิวซี แลนด์เท่านั้น อีกตัวหนึ่งที่หาดูได้ยากมาก ๆ คือ มังกรทะเลวี้ดดี้ เป็นสัตว์คุ้ม ครองของออสเตรเลีย น้องแพรวเองเมื่อได้เห็นม้าน้ำพันธุ์ต่าง ๆ


ประกันภัยรถยนต์ราคาถูก

ก็ตื่นเต้นไม่น้อย แถมน้องแพรวเองยังเป็นขาประจำของที่นี่อีกต่างหาก เพราะมาบ่อยมาก ส่วนน้องภูมินั้นเพิ่งมาเป็นครั้งแรก แม่ตุ๊กบอกว่าที่ชอบพาลูก ๆ มาที่นี่ เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ โดยเฉพาะมาศึกษาสัตว์น้ำประเภทต่าง ๆ ได้ความรู้และความสนุกไปในตัว ที่สำคัญถือเป็นการปลูกฝังให้เด็ก ๆ รักโลก รักทะเล และเป็นเด็กที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีด้วย

งานนี้นอก จากน้องภูมิและน้องแพรวจะได้ชมม้าน้ำและปลาชนิดต่าง ๆ แล้ว ยังได้สัมผัสปลาดาวตัว เป็น ๆ กันอย่างใกล้ชิดด้วย น้องภูมิถึงแม้จะเล็กมาก ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่ก็ไม่งอแงเลย แถมยังทำตาโตดูตื่นเต้นเมื่อเดินผ่านอุโมงค์ปลาขนาดยักษ์ ส่วนน้องแพรวไม่ต้องพูดถึง รายนี้สนุกกว่าใครเลยจริง ๆ
  

ตุ๊ก เปิดเผยว่า “ปกติแล้วตุ๊กเป็นคนที่ชอบพาลูกไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ถ้าหยุดติดกันหลาย ๆ วันก็มักจะพาลูกไปต่างจังหวัด เที่ยวทะเล เที่ยวป่า คือตุ๊กอยากพาลูกได้เที่ยวทั่ว ๆ เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้เขามากที่สุด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเทศกาล และดูช่วงเวลาที่เหมาะสม ถ้ามีเวลาว่างวันเดียวก็จะพาลูกไปเที่ยวที่ใกล้ ๆ อย่างที่นี่ ตุ๊กชอบพาลูกมาดูปลาอยู่แล้ว อย่างน้องแพรวชอบปลากระเบนเป็นพิเศษ ก็จะอ้อนให้ตุ๊กพามาเที่ยว
บ่อย ๆ สำหรับของขวัญที่ตุ๊กอยากมอบให้กับลูก ๆ คือตุ๊กอยากทำวันนี้ของพวกเขาให้ดีที่สุด เท่าที่เรายังมีโอกาสได้ดูแล เพื่อวันข้างหน้าพวกเขาจะมีศักยภาพมากพอที่จะทำอะไรในสิ่งที่เขาอยากทำ เลือกทางของเขาเองในที่สุด”.
จ๊ะโอ๋
ที่มา เดลินิวส์ 

ไทเกอร์"ผงาดนำร่วม


วันนี้ (11 ส.ค.) การแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์สุดท้ายของปี 2012 รายการ พีจีเอ แชมเปียนชิพ ครั้งที่ 94 ที่สนามเคียวาห์ ไอส์แลนด์ กอล์ฟ รีสอร์ท (โอเชียน คอร์ส) ระยะ 7,676 หลา พาร์ 72 ที่เซาธ์ แคโรไลนา แข่งขันในรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ไทเกอร์ วูดส์ ยอดโปรชาวสหรัฐ ตีเพิ่มอีก 1 อันเดอร์ สกอร์รวมขยับเป็น 4 อันเดอร์พาร์ 140 ผงาดขึ้นมารั้งอันดับผู้นำร่วมกับวีเจย์ ซิงห์ โปรชาวฟิจิ และ คาร์ล เพตเตอร์สัน จากสวีเดน โดยทั้ง 3 คน มีสกอร์นำหน้า เอียน โพลเตอร์ จากอังกฤษ อยู่ 1 สโตรก
ด้ารอรี แม็คอิลรอย โปรชาวไอร์แลนด์เหนือ ฟอร์มแผ่ว ตีเกิน 3 โอเวอร์ สกอร์รวมเหลือ 2 อันเดอร์พาร์ 142 หล่นมาอยู่ที่ 5 ร่วม ส่วน ผลงานโปรไทย ธงชัย ใจดี ฟอร์มออกทะเล ตีเกินเละเทะ 8 โอเวอร์ สกอร์รวม 2 วันทำได้ 9 โอเวอร์พาร์ 153 หล่นไปอยู่ที่ 96 ร่วม ไม่ผ่านการตัดตัว
ที่มาเดลินิวส์ 

แฟนคลับแห่ดู"น้องเมย์"โชว์


วันนี้ (11 ส.ค.) ที่สนามแบดมินตัน แคทสปอร์ตคลับ ถนนพัทยาสาย 3 เมืองพัทยา  จ. ชลบุรี ''น้องเมย์'' รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันมือหนึ่งของไทย วัย 17 ปี เจ้าของดีกรีแชมป์เยาวชนโลก 3 สมัย ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2012 ครั้งที่ 30 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้เดินทางมาพักผ่อนและท่องเที่ยวเมืองพัทยาระหว่างวันที่ 11-12 ส.ค. พร้อมเพื่อนๆ และน้องๆ นักแบดมินตันสโมสรบ้านทองหยอดกว่า 30 คน  โดยพักเข้าที่โรงแรมเดอะไซด์ ซอย 12 ถนนพัทยา-นาเกลือ
“น้องเมย์” เผยว่า ตอนแรกตั้งใจจะไปพักผ่อนและท่องเที่ยวที่ อ.หัวหิน  จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่โรงแรมเต็มหมด เพราะคณะที่จะเดินทางไปด้วยกว่า 30 คน เลยเปลี่ยนการเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยาแทน  แต่ยังไม่มีโปรมแกรมหรือวางแผนไปท่องเที่ยวที่ไหน  และยังไม่ได้เดินทางไปเที่ยวหรือเล่นน้ำทะเลเลย
ส่วนบรรยากาศในการลงซ้อมแบดมินตันในช่วงเช้าที่สนามแคทสปอร์ตคลับ  ซึ่งมีนักแบดมินตันอายุน้อย รวมถึงนักแบดมินตันชาวต่างชาติ ในระหว่างลงซ้อมนั้นมีบรรดาแฟนคลับของ “น้องเมย์” เดินทางมาชมการซ้อม พร้อมขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและพากันชื่นชมฝีมือของนักแบดมินตันมือหนึ่งของไทยด้วย.

เจมส์ ได้เวลาเรียนรู้ผู้ชาย


หลังจากที่เจมส์ห่างเวทีไปนาน 17 ปีเต็ม กระแสความคิดถึง “เจมส์ เรืองศักดิ์” ก็ยังไม่มีแผ่ว บวกกับความสามารถในการร้อง เล่น เต้น แสดงสด ที่สะกดใจผู้ชมในทุกอารมณ์ได้เป็นอย่างดี พร้อมแขกรับเชิญสุดเซอร์ไพร้ส์แห่งยุค ที่คาดไม่ถึง เดาไม่ออก ในวันเสาร์ที่ 8 กันยายน 2555 ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เวลาแสดง 18.00 น. ใครที่ยังไม่มีบัตรรีบจองด่วน ไม่งั้นจะเสียใจ เอาละก่อนจะถึงคอนเสิร์ต วันนี้เรามาพูดคุยกับเจมส์ ถึงการกลับบ้านที่ให้กำเนิดเขาอีกครั้งหนึ่ง

“กลับบ้าน”

กลับมาบ้านอาร์เอสฯ นอกจากคอนเสิร์ต “ได้เวลา...เจมส์” แล้ว จะมีงานอื่นด้วยหรือเปล่า?


“จริง ๆ แล้วการกลับมาทำงานกับทาง อาร์เอส ก็หมายถึงการที่เราประกาศตัวเองว่าเราเป็นศิลปินอิสระ จึงสามารถร่วมงานกับทุกค่ายได้ ไม่ว่าจะเป็น งานเพลง งานหนัง หรืองานละคร ผมว่ามันก็เป็นอิสระในด้านการคิด ส่วนการกลับมาอาร์เอสจะมีงานอื่นเพิ่มเติมหรือเปล่า ผมก็คงต้องรอเพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต ถามว่าทุกอย่างก็อาจเป็นไปได้ ถ้ามีเวลาที่ดี ชิ้นงานที่เหมาะสม

คอนเสิร์ตครั้งนี้มีอะไรมาเซอร์ไพร้ส์คนดูบ้าง?

“ผมคิดว่าคอนเสิร์ตคราวนี้ ท้ายที่สุดน่าจะเป็นการที่แฟนเพลงผมทุกคนจะได้เห็นความฝันของผม เพราะการได้ขึ้นคอนเสิร์ตที่อิมแพ็ค อารีน่า ผมว่ามันเป็นความใฝ่ฝันของศิลปินทุกคน สิ่งที่เซอร์ไพร้ส์ ในครั้งนี้น่าจะเป็นการที่ทุกคนจะได้เห็นความฝันของผม จะมาเล่ายังไง เพลงทั้งหมดทั้ง 9 อัลบั้ม 10 อัลบั้ม หรือว่าวิธีการโชว์บนคอนเสิร์ต ส่วนเรื่องแขกรับเชิญที่เราจัดสรรมาเป็นพิเศษ รับรองเซอร์ไพร้ส์แน่นอนครับ”

เจมส์มีส่วนร่วมกับคอนเสิร์ต “ได้เวลา...เจมส์” ครั้งนี้ยังไงบ้าง?

“จริง ๆ ถ้าถามถึงส่วนร่วมผม อย่างที่บอกว่ามันเกิดจากความฝันของตัวเรา ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น สคริปต์เพลง เรื่องราวต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นบนเวทีผมมีส่วนร่วมหมด ซึ่งผมก็มีทีมงานที่ดี ที่เปิดโอกาสให้ผมได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับทุกส่วนของคอนเสิร์ตครั้งนี้นะครับ”

“ท่าขั้นเทพ กางแขน ฟีเวอร์”

เป็นคอนเสิร์ตใหญ่แบบนี้ เจมส์เหมาบัตรยกมาดูกันทั้งครอบครัวรึเปล่า


“คิดว่าคงมากันหมดบ้านเลยครับ นี่ถ้ารวยหน่อยจะขนมาทั้งหมู่บ้านเลย เหมือนกับ 10 ปี มีครั้งหนึ่ง ทุกคนพอรู้ว่าผมจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ ก็ตั้งหน้าตั้งตารอดู ทั้งเพื่อน ทั้งญาติ ไปจองบัตรกันแล้ว”

กระแสตอบรับ จากแฟนเพลงเป็นยังไงบ้าง เห็นว่าแฟน ๆ ออกมาทำท่ากางแขนกันใหญ่?

“พูดถึงกระแส ผมว่าน้อง ๆ แฟนคลับในยุค 1990 ณ ตอนนั้นเขายังเป็นเด็กนักเรียน ไม่สามารถเดินทางมาดูได้เพราะเด็ก หรือยังไม่มีเงินฟุ่มเฟือยมาดูคอนเสิร์ต แต่วันนี้โตเป็นผู้ใหญ่ทำงาน ทำการทำงานกันแล้ว มีกำลังจะซื้อบัตรได้ ผมว่ามันเป็นการทำฝันให้เป็นจริงอย่างหนึ่งนะครับ ส่วนท่ากางแขน หรือการออกมาโพสต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะโชว์สิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเรา บางคนเคยถ่ายกับผมตอน ป.2 ก็เอาออกมาโชว์ อ่านบางข้อความผมก็น้ำตาไหลก็มี ผมว่าเป็นการแสดงออกที่ดีนะ เห็นแล้วผมก็มีกำลังใจในการทำงานคอนเสิร์ตครั้งนี้มากยิ่งขึ้น ผมจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังครับ...ผมสัญญา”

“แม่ ผู้ให้กำเนิด”

ใกล้วันแม่แล้ว ขอถามถึงความผูกพันกับคุณแม่หน่อย เจมส์กับแม่ผูกพันกันแค่ไหน อยู่ไกลกัน ดูแลกันยังไง?


“มีสิ่งที่ผมภูมิใจ และดีใจกับแม่มากที่ท่านเรียนจบปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์ สาขาสังคมวิทยาและมนุษย์วิทยา เพราะท่านเพิ่งมาเรียนตอนที่อายุมาก แต่ด้วยความตั้งใจจริงท่านก็สามารถทำได้สำเร็จ ส่วนช่วงชีวิตของผม อาจจะทำงานเร็ว เพราะทำงานตั้งแต่ 15-16 ก็เริ่มหาเงินด้วยตัวเองแล้ว ไม่ได้เหมือนชีวิตเด็กที่ได้อยู่กับแม่ วัยรุ่นที่มีฐานะไม่ต้องดิ้นรนทำกิน ถึงแม้ผมไม่ได้อยู่กับแม่ แต่เรื่องของการตอบแทนบุญคุณตัวผมระลึกอยู่เสมอ ถ้ามีอะไรที่ทำได้ผมก็จะรีบทำทันที ทุกวันนี้แม้เราจะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน แต่บ้านเราใกล้กัน ทั้งเรื่องสุขภาพ ความเป็นอยู่ ดูแลอะไรได้ผมเต็มที่เสมอ

วันแม่ปีนี้ได้กลับบ้านไปเยี่ยมแม่ไหม ซื้ออะไรให้แม่?

“ก็จะทำเหมือนทุกปีครับ ก็จะมีการเอาพวงมาลัยไปกราบแม่ คุณย่า ที่บ้าน ก็จะพยายามเป็นตัวอย่างให้น้อง ๆหลาน ๆ ได้ยึดปฏิบัติตามกัน ที่เราได้ระลึกถึงบุคคลทั้ง 2 อาจจะพิเศษ คือพาพวกท่านไปทานข้าวนอกบ้านกัน ส่วนของขวัญผมให้ทุกวันอยู่แล้ว นั่นคือการเป็นลูกที่ดี หลานที่ดี อยู่ในครรลองคลองธรรมที่ดี ผมว่ามันเป็นของขวัญที่ดีอยู่แล้ว”

“ความรัก ครั้งใหม่”

มาถึงเรื่อง “ความรัก” กันบ้าง เดี๋ยวนี้มีพีอาร์ส่วนตัวแล้ว น้องช่วยดูแลอะไรบ้าง?


“ก็ช่วยเตือนวินัยในการซ้อม ดูเรื่องโทรฯ มาปลุกตอนเช้า ว่าตื่น ๆ ไปวิ่ง ไปออกกำลังกาย ชกมวย คงเป็นห่วงกลัวผมไม่มีแรงขึ้นคอนเสิร์ต กลัวผมไม่มีเวลาพักผ่อน ถ้าน้องว่างก็จะซื้ออาหารบำรุงมาให้ทาน ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็เป็นปกติทั่ว ๆ ไปครับ”

กลับมาเรื่องงานอีกที ในวงการนี้ยังมีอะไรที่เจมส์ ยังไม่ได้ทำ แล้วอยากทำอีก?

“จริง ๆ มีอีกงานที่ผมยังไม่ได้ทำ และอยากลอง คืองานพิธีกร เพราะผมเป็นคนชอบคุย ชอบถาม ชอบซัก ถ้ามีโอกาสได้มีรายการของตัวเอง ก็น่าจะดี อยากจะรู้ว่าตัวเองจะทำได้แค่ไหน เพราะมันเป็นงานที่ท้าทาย การที่จะทำให้ออกมาดีมันก็ยากเหมือนกัน”

มองอนาคตตัวเองไว้ยังไงบ้าง?

“ระยะหลังผมเป็นคนที่ไม่คิดอะไรที่ยาว ๆ คิดแค่รอบ ๆ เรื่องราวรอบตัวแค่ 4-5 เมตร ว่าทุก ๆ นาที ทุก ๆ วัน เรากำลังจะก้าวไปไหน ทำอะไร ตั้งใจทำงานชิ้นนั้นให้ดีที่สุด ส่วนอนาคตมันเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถรู้ได้ ดังนั้น ไม่ต้องคิดอะไรไกลเกินไป แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่านั้นพอ”

คนเราเกิดมาเพื่อเป็นซุป’ตาไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ยังไงก็ยังเป็นซุป’ตา และแน่นอนว่า เจมส์-เรืองศักดิ์ ถึงจะห่างเวทีไปนานแค่ไหน แต่การกลับมามีคอนเสิรต์ครั้งนี้ เราเชื่อแน่ว่า แฟน ๆ จะไม่มีคำว่าผิดหวัง เพราะได้เวลาเจมส์ กลับมาอีกครั้งจริง ๆ.      ประกันอิสรภาพ 
กาญจนา สิทธิเม่ง รายงาน
ที่มาเดลินิวส์ 

แฟนเพลงเซ็ง! แกรมมี่


วันนี้ (9 ส.ค.) อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ นายกริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(สายธุรกิจเพลง) บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนถึงสาเหตุการถอดมิวสิควิดีโอ เพลงของแกรมมี่ออกจากเว็บไซด์ชื่อดัง ยูทูปว่าเพื่อปกป้องธุรกิจเพลงและอาชีพของคนทำเพลงให้คงอยู่ต่อไป  โดยต้องขออภัยที่สร้างความเดือดร้อนให้กับบางคนแต่ที่เราทำเราคิดว่าเรามีความจำเป็น เพื่อให้เรามีพื้นฐานความเข้าใจในเชิงธุรกิจเพลง คือเราดูจากธุรกิจเพลงของบริษัททั่วโลกว่าเขาแก้ปัญหาธุรกิจเพลงอย่างไร อะไรที่ทำได้อะไรที่ทำไม่ได้  อะไรที่เราจะต้องเดินไป อะไรที่เราจะต้องป้องกันตัวเอง ผมของพูดในส่วนของด้านริงโทนก่อนที่เป็นกระแสอยู่พักนึงแล้วก็ตกลงเพราะเกิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เดิมทีเราโทรหากันแต่เดี๋ยวนี้เราใช้ไลน์ วอทแอป  ทวิตเตอร์ ทำให้เดี๋ยวนี้เราไม่รับโทรศัพท์กันแล้ว แต่ที่เราจะพูดถึงธุรกิจที่เป็นประเภทแอดเวอร์ไทซิ่ง  ซัปพอร์ต หรือธุรกิจที่รองรับกับการโฆษณา อย่างยูทูป และวีโว ซึ่งเป็นการร่วมมือของโซนี่และยูนิเวอร์ซอล และอาบูดาบี้ ทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหา รายได้มาจากการโฆษณาในเมืองนอกเวลาเจ้าของเทคโนโลยีจะทำอะไรขึ้นมาจะคำนึงถึงเจ้าของสิทธิ์เพราะถือว่าเอาของเขาไปดูฟรีไม่ได้ ทุกธุรกิจมีต้นทุน มีรายจ่าย  เลยต้องหาโมเดลที่วินวินทั้งสองฝ่าย ในอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมัน อังกฤษ ออสเตรเลีย แต่ไทยไม่มีธุรกิจยูทูปเพราะมีปัญหาข้อกฎหมายที่ยูทูปยังไม่สามารถมี youtube.co.th ได้ในเมืองไทยเพราะกฎหมายไอซีที แต่เรามีการจัดเก็บสิทธิ์การเผยแพร่ต่างๆเรามีทั่วโลกก็มี การทำซ้ำดัดแปลงเพลงเอ็มวีซ้ำก็มีลิขสิทธิ์ ซึ่งการที่มีคนเอาเพลงคนอื่นไปร้องแล้วอัดลงยูทูปน่ะผิดกฎหมายนะครับ แต่เราเห็นว่าขำๆปล่อยบ้างปรามบ้างเพราะผิดกฎหมาย มาถึงยูทูปรายได้เขามาจากการโฆษณาเอาจำนวนผู้เข้าชมมากมาซื้อโฆษณาโดยระบบการบิดพื้นที่ตรงนั้นตรงนี้ ซึ่งถ้าเขามีรายจากตรงนั้นเยอะก็จะมาแบ่งให้กับเจ้าของเนื้อหานั้นๆก็ว่ากันไป

 “แต่ในเมืองไทยมีความน่ากลัวของเทคโนโลยีที่เข้ามากับธุรกิจเพลง ซึ่งเดิมทีโทรศัพท์เป็นระบบ 2 จีการเข้าถึงข้อมูลยังไม่สะดวก ก็ไม่เกิดปัญหา เราเอาเพลงไปโพสต์ในยูทูปแต่ไม่เกิดปัญหาเพราะยังเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีที่คนใช้ดูซึ่งมันก็ไม่ได้ป้องกันการขโมยแต่ก็ยังจำกัดตัวอยู่แค่นั้น เราเอาไปโพสต์ในยูทูปเพราะตอนนั้นสื่อเรายังน้อย ก็ใช้ชิ่งทางยูทูปจนเราลืมไป แล้วมานึกได้ว่าสมาร์ทโฟนหรือ 3 จีกำลังเกิดคนเข้าถึงได้หมดความน่ากลัวคือคุณสามารถเอายูทูปไปอยู่ในมือถือของคุณแล้วเอาเพลงไปเลย เพลงอยู่ในกระเป๋าเรียบร้อยถามว่าจะมีสักกี่คนที่จ่ายตังค์โหลด ไม่มีแน่ คนที่จ่ายคือคนที่อยู่ในระบบ2 จีครับ คนมีสมาร์ทโฟนไม่จ่าย แล้วถ้ายูทูปไทยแลนด์ไม่มีรายได้ของคนทำงานอยู่ไหน การเอาสินค้าที่มีต้นทุนไปไล่แจกไม่ถูกต้อง ในแง่ของสังคมก็บอกว่าจะทำยังไงแกรมมี่ทำการตลาดแบบนี้ เราบอกเลยดูได้คือผ่านทางจีเมมเบอร์ที่ปรับปรุงให้ดี ซึ่งจีเมมเบอร์ก็คือวีโวในอนาคต ดูเอ็มวีได้แค่ไม่สะดวกหน่อย  ถ้าผู้บริโภคคนเสพเพลงที่เคารพและเห็นใจคนทำเพลงและธุรกิจน่าจะเข้าใจเสียสละความลำบากครับ ถ้าไม่ลำบากมันจะอยู่ไม่ได้ แต่เราไม่ได้ประกาศทางการว่าจะปิดเราปิดยูทูปไม่ได้หรอกครับ แค่เราจะเอาสินค้าบางอย่างที่ไม่เป็นการไล่แจกเราถือว่ายูทูปเป็นมีเดียร์การเอาสกู๊ป  สปอร์ต ทีเซอร์ศิลปินขึ้นไปยังทำ แต่บางอย่างที่ขึ้นไปแล้วยูทูป เรา และคนทำเพลงไม่ได้สตางค์แบบนี้ธุรกิจก็ล่มสลาย ฉะนั้นเราก็พยายามคุยกันหาทางแก้ปัญหานี้ ยังดูเอ็มวีเราได้นะครับแต่ขอให้เห็นใจที่ทำแบบนี้ต้องปกป้องคนทำธุรกิจอาชีพแต่งเพลงของเราครับแสดงว่ายูทูปส่งผลกระทบต่อแกรมมี่  ส่งผลต่อภาพรวมเป็นกระแสทั่วโลก นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมวีโวถึงออกจากยูทูป เพราะยังไม่มีโมเดลรองรับ เราก็พยายามขยายช่องของจีเมมเบอร์ให้เข้าได้หนึ่งหมื่นคนต่อหนึ่งวินาทีเราเติมได้ขอแค่เข้ามาดู และเข้าดูฟรี แชร์ได้ด้วยนั่นหมายถึงเราจะเป็นเหมือนวีโวที่มีช่องทางธุรกิจในอนาคต ถ้ายูทูปไม่มีช่องทางนี้ได้จนกว่าจะมียูทูประเทศไทย  ในแง่ดูเอ็มวีถ้าเอาโมเดลยูทูปมาใช้คงไม่เก็บเงิน แต่จะมีคนดูมาเก็บเงินถ้ายอดวิวสูงและมีโฆษณาเข้ามา ผู้บริโภคและเราไม่เดือดร้อน ก็วินวินซึ่งอยากคุยโมเดลนี้กับยูทูปในการเซิร์ทค้นหาเพลงจะไม่มีปัญหาก็จะขึ้นว่าอยูในจีเมมเบอร์ เพลงเรายูทูปในต่างประเทศยังดูได้นะครับเพราะเขามีโมเดลชัดเจนยังเป็นคู่ค้าแม้จะน้อยนิดก็เถอะ”  นายกริช กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า ถามว่าเพลงเอ็มวีในยูทูปจะดึงออกมั้ย ดึงแน่นอน แต่ต้องเจรจาจากยูทูปถ้าทำลายธุรกิจ ของใหม่เราไม่เอาลงแล้วกัน อันเก่าก็ทยอยๆเพราะมันเยอะครับ เพลงเราเป็นดาต้าข้อมูลเราก็ต้องปรับตัวตามโลก เราปกป้องตัวเองเพราะเราไม่มีธุรกิจไงครับ พอไม่มีธุรกิจทุกคนมีต้นทุนแต่ไม่มีรายได้ไปไม่รอดครับ ในจีนก็มีโมเดลนี้อย่างในจีนมาจากโฆษณานะ ถ้าเพลงคุณไม่ดีคนไม่เข้าดูก็จะไม่มีโฆษณา เพื่อนักแต่งเพลงคนทำมีกำลังใจในการสร้างสรรค์งานเพลง ส่วนยูทูปไทยแลนด์จะเกิดมั้ยต้องไปถามรัฐบาลครับ และถ้าอัพโหลดโดยผู้ใช้คนอื่นๆก็ต้องลบเพราะละเมิด เป็นการทำซ้ำดัดแปลง พูดง่ายๆคนเอาของบ้านคุณไปให้ชาวบ้านคุณยอมมั้ย ไม่มีใครยอมหรอก  ศิลปินเองก็ไม่มีผลกระทบศิลปินก็ยังมีรายได้ ปกติการโฆษณาศิลปินไม่จำเป็นต้องไล่แจกเพลง  นโยบายนี้อาจค่อนข้างทำให้แฟนเพลงไม่พอใจ  ก็ถ้าแฟนเพลงที่เคารพเมตตาธุรกิจเพลง คนแต่งเพลง เขาน่าจะยอมลำบากให้เราอยู่รอด ถ้าอ้างว่าเป็นแฟนเพลงแต่ไม่ช่วยเรานั้นผมว่าก็ไม่เกื้อกูลไป การออกจากยูทูปทำให้คนหันไปดูจีเอ็มเอ็มแซทมากขึ้นหรือไม่นั้น ไม่หรอก แยกกันอยู่แล้วถ้าจะเมตตาดูจีเอ็มเอ็มแซทหรือกล่อง หรือแอปเราก็ได้ครับ  โดยตนคิดว่าหลังจากปรับระบบเรียบร้อยแล้วอุตสาหกรรมเพลงจะต้องกลับมา อาจไม่เท่าเดิมแต่จะดีขั้นก็จับกระแสดูพวกใหญ่ๆเขาทำ แต่เราเล็กๆก็ต้องปรับตัวดิ้นรน
“เริ่มไม่เอาขึ้น ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ลองไม่เอาขึ้นไม่กี่เพลงก็มีผลเยอะมากเหมือนกัน ซึ่งสามารถแชร์ได้ปกติ  สุดท้ายอยากให้ลองอ่าน พ.ร.บ. 37 น่าจะลองอ่านดูนะว่าที่เอาไปทำซ้ำน่ะผิดกฎหมายแต่คนไม่รู้พอเราไปจับก็ว่าแกรมมี่เป็นยักษ์ คนไทยชอบคิดว่าเพลงเป็นของฟรี เพราะธุรกิจมีรายจ่ายไม่มีรายได้อยู่ไม่ได้  เป็นธุรกิจมีมันสมอง ถ้าคนขโมยๆใครจะทำ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าอาชีพเต้นกินรำกินทำแล้วมันจนอย่าไปทำเลย ทั้งที่เขาทำมาไว้ดีแล้วตั้งแต่รุ่นพี่เต๋อ  เรวัติ แล้วตอนนี้มาทำลายอีกแล้วเห็นแก่ลูกหลานในอนาคตเถอะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวทิ้งท้าย..  
ที่มา  เดลินิวส์