วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แฟนเพลงเซ็ง! แกรมมี่


วันนี้ (9 ส.ค.) อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ นายกริช ทอมมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(สายธุรกิจเพลง) บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนถึงสาเหตุการถอดมิวสิควิดีโอ เพลงของแกรมมี่ออกจากเว็บไซด์ชื่อดัง ยูทูปว่าเพื่อปกป้องธุรกิจเพลงและอาชีพของคนทำเพลงให้คงอยู่ต่อไป  โดยต้องขออภัยที่สร้างความเดือดร้อนให้กับบางคนแต่ที่เราทำเราคิดว่าเรามีความจำเป็น เพื่อให้เรามีพื้นฐานความเข้าใจในเชิงธุรกิจเพลง คือเราดูจากธุรกิจเพลงของบริษัททั่วโลกว่าเขาแก้ปัญหาธุรกิจเพลงอย่างไร อะไรที่ทำได้อะไรที่ทำไม่ได้  อะไรที่เราจะต้องเดินไป อะไรที่เราจะต้องป้องกันตัวเอง ผมของพูดในส่วนของด้านริงโทนก่อนที่เป็นกระแสอยู่พักนึงแล้วก็ตกลงเพราะเกิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เดิมทีเราโทรหากันแต่เดี๋ยวนี้เราใช้ไลน์ วอทแอป  ทวิตเตอร์ ทำให้เดี๋ยวนี้เราไม่รับโทรศัพท์กันแล้ว แต่ที่เราจะพูดถึงธุรกิจที่เป็นประเภทแอดเวอร์ไทซิ่ง  ซัปพอร์ต หรือธุรกิจที่รองรับกับการโฆษณา อย่างยูทูป และวีโว ซึ่งเป็นการร่วมมือของโซนี่และยูนิเวอร์ซอล และอาบูดาบี้ ทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหา รายได้มาจากการโฆษณาในเมืองนอกเวลาเจ้าของเทคโนโลยีจะทำอะไรขึ้นมาจะคำนึงถึงเจ้าของสิทธิ์เพราะถือว่าเอาของเขาไปดูฟรีไม่ได้ ทุกธุรกิจมีต้นทุน มีรายจ่าย  เลยต้องหาโมเดลที่วินวินทั้งสองฝ่าย ในอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมัน อังกฤษ ออสเตรเลีย แต่ไทยไม่มีธุรกิจยูทูปเพราะมีปัญหาข้อกฎหมายที่ยูทูปยังไม่สามารถมี youtube.co.th ได้ในเมืองไทยเพราะกฎหมายไอซีที แต่เรามีการจัดเก็บสิทธิ์การเผยแพร่ต่างๆเรามีทั่วโลกก็มี การทำซ้ำดัดแปลงเพลงเอ็มวีซ้ำก็มีลิขสิทธิ์ ซึ่งการที่มีคนเอาเพลงคนอื่นไปร้องแล้วอัดลงยูทูปน่ะผิดกฎหมายนะครับ แต่เราเห็นว่าขำๆปล่อยบ้างปรามบ้างเพราะผิดกฎหมาย มาถึงยูทูปรายได้เขามาจากการโฆษณาเอาจำนวนผู้เข้าชมมากมาซื้อโฆษณาโดยระบบการบิดพื้นที่ตรงนั้นตรงนี้ ซึ่งถ้าเขามีรายจากตรงนั้นเยอะก็จะมาแบ่งให้กับเจ้าของเนื้อหานั้นๆก็ว่ากันไป

 “แต่ในเมืองไทยมีความน่ากลัวของเทคโนโลยีที่เข้ามากับธุรกิจเพลง ซึ่งเดิมทีโทรศัพท์เป็นระบบ 2 จีการเข้าถึงข้อมูลยังไม่สะดวก ก็ไม่เกิดปัญหา เราเอาเพลงไปโพสต์ในยูทูปแต่ไม่เกิดปัญหาเพราะยังเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีที่คนใช้ดูซึ่งมันก็ไม่ได้ป้องกันการขโมยแต่ก็ยังจำกัดตัวอยู่แค่นั้น เราเอาไปโพสต์ในยูทูปเพราะตอนนั้นสื่อเรายังน้อย ก็ใช้ชิ่งทางยูทูปจนเราลืมไป แล้วมานึกได้ว่าสมาร์ทโฟนหรือ 3 จีกำลังเกิดคนเข้าถึงได้หมดความน่ากลัวคือคุณสามารถเอายูทูปไปอยู่ในมือถือของคุณแล้วเอาเพลงไปเลย เพลงอยู่ในกระเป๋าเรียบร้อยถามว่าจะมีสักกี่คนที่จ่ายตังค์โหลด ไม่มีแน่ คนที่จ่ายคือคนที่อยู่ในระบบ2 จีครับ คนมีสมาร์ทโฟนไม่จ่าย แล้วถ้ายูทูปไทยแลนด์ไม่มีรายได้ของคนทำงานอยู่ไหน การเอาสินค้าที่มีต้นทุนไปไล่แจกไม่ถูกต้อง ในแง่ของสังคมก็บอกว่าจะทำยังไงแกรมมี่ทำการตลาดแบบนี้ เราบอกเลยดูได้คือผ่านทางจีเมมเบอร์ที่ปรับปรุงให้ดี ซึ่งจีเมมเบอร์ก็คือวีโวในอนาคต ดูเอ็มวีได้แค่ไม่สะดวกหน่อย  ถ้าผู้บริโภคคนเสพเพลงที่เคารพและเห็นใจคนทำเพลงและธุรกิจน่าจะเข้าใจเสียสละความลำบากครับ ถ้าไม่ลำบากมันจะอยู่ไม่ได้ แต่เราไม่ได้ประกาศทางการว่าจะปิดเราปิดยูทูปไม่ได้หรอกครับ แค่เราจะเอาสินค้าบางอย่างที่ไม่เป็นการไล่แจกเราถือว่ายูทูปเป็นมีเดียร์การเอาสกู๊ป  สปอร์ต ทีเซอร์ศิลปินขึ้นไปยังทำ แต่บางอย่างที่ขึ้นไปแล้วยูทูป เรา และคนทำเพลงไม่ได้สตางค์แบบนี้ธุรกิจก็ล่มสลาย ฉะนั้นเราก็พยายามคุยกันหาทางแก้ปัญหานี้ ยังดูเอ็มวีเราได้นะครับแต่ขอให้เห็นใจที่ทำแบบนี้ต้องปกป้องคนทำธุรกิจอาชีพแต่งเพลงของเราครับแสดงว่ายูทูปส่งผลกระทบต่อแกรมมี่  ส่งผลต่อภาพรวมเป็นกระแสทั่วโลก นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมวีโวถึงออกจากยูทูป เพราะยังไม่มีโมเดลรองรับ เราก็พยายามขยายช่องของจีเมมเบอร์ให้เข้าได้หนึ่งหมื่นคนต่อหนึ่งวินาทีเราเติมได้ขอแค่เข้ามาดู และเข้าดูฟรี แชร์ได้ด้วยนั่นหมายถึงเราจะเป็นเหมือนวีโวที่มีช่องทางธุรกิจในอนาคต ถ้ายูทูปไม่มีช่องทางนี้ได้จนกว่าจะมียูทูประเทศไทย  ในแง่ดูเอ็มวีถ้าเอาโมเดลยูทูปมาใช้คงไม่เก็บเงิน แต่จะมีคนดูมาเก็บเงินถ้ายอดวิวสูงและมีโฆษณาเข้ามา ผู้บริโภคและเราไม่เดือดร้อน ก็วินวินซึ่งอยากคุยโมเดลนี้กับยูทูปในการเซิร์ทค้นหาเพลงจะไม่มีปัญหาก็จะขึ้นว่าอยูในจีเมมเบอร์ เพลงเรายูทูปในต่างประเทศยังดูได้นะครับเพราะเขามีโมเดลชัดเจนยังเป็นคู่ค้าแม้จะน้อยนิดก็เถอะ”  นายกริช กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า ถามว่าเพลงเอ็มวีในยูทูปจะดึงออกมั้ย ดึงแน่นอน แต่ต้องเจรจาจากยูทูปถ้าทำลายธุรกิจ ของใหม่เราไม่เอาลงแล้วกัน อันเก่าก็ทยอยๆเพราะมันเยอะครับ เพลงเราเป็นดาต้าข้อมูลเราก็ต้องปรับตัวตามโลก เราปกป้องตัวเองเพราะเราไม่มีธุรกิจไงครับ พอไม่มีธุรกิจทุกคนมีต้นทุนแต่ไม่มีรายได้ไปไม่รอดครับ ในจีนก็มีโมเดลนี้อย่างในจีนมาจากโฆษณานะ ถ้าเพลงคุณไม่ดีคนไม่เข้าดูก็จะไม่มีโฆษณา เพื่อนักแต่งเพลงคนทำมีกำลังใจในการสร้างสรรค์งานเพลง ส่วนยูทูปไทยแลนด์จะเกิดมั้ยต้องไปถามรัฐบาลครับ และถ้าอัพโหลดโดยผู้ใช้คนอื่นๆก็ต้องลบเพราะละเมิด เป็นการทำซ้ำดัดแปลง พูดง่ายๆคนเอาของบ้านคุณไปให้ชาวบ้านคุณยอมมั้ย ไม่มีใครยอมหรอก  ศิลปินเองก็ไม่มีผลกระทบศิลปินก็ยังมีรายได้ ปกติการโฆษณาศิลปินไม่จำเป็นต้องไล่แจกเพลง  นโยบายนี้อาจค่อนข้างทำให้แฟนเพลงไม่พอใจ  ก็ถ้าแฟนเพลงที่เคารพเมตตาธุรกิจเพลง คนแต่งเพลง เขาน่าจะยอมลำบากให้เราอยู่รอด ถ้าอ้างว่าเป็นแฟนเพลงแต่ไม่ช่วยเรานั้นผมว่าก็ไม่เกื้อกูลไป การออกจากยูทูปทำให้คนหันไปดูจีเอ็มเอ็มแซทมากขึ้นหรือไม่นั้น ไม่หรอก แยกกันอยู่แล้วถ้าจะเมตตาดูจีเอ็มเอ็มแซทหรือกล่อง หรือแอปเราก็ได้ครับ  โดยตนคิดว่าหลังจากปรับระบบเรียบร้อยแล้วอุตสาหกรรมเพลงจะต้องกลับมา อาจไม่เท่าเดิมแต่จะดีขั้นก็จับกระแสดูพวกใหญ่ๆเขาทำ แต่เราเล็กๆก็ต้องปรับตัวดิ้นรน
“เริ่มไม่เอาขึ้น ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ลองไม่เอาขึ้นไม่กี่เพลงก็มีผลเยอะมากเหมือนกัน ซึ่งสามารถแชร์ได้ปกติ  สุดท้ายอยากให้ลองอ่าน พ.ร.บ. 37 น่าจะลองอ่านดูนะว่าที่เอาไปทำซ้ำน่ะผิดกฎหมายแต่คนไม่รู้พอเราไปจับก็ว่าแกรมมี่เป็นยักษ์ คนไทยชอบคิดว่าเพลงเป็นของฟรี เพราะธุรกิจมีรายจ่ายไม่มีรายได้อยู่ไม่ได้  เป็นธุรกิจมีมันสมอง ถ้าคนขโมยๆใครจะทำ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าอาชีพเต้นกินรำกินทำแล้วมันจนอย่าไปทำเลย ทั้งที่เขาทำมาไว้ดีแล้วตั้งแต่รุ่นพี่เต๋อ  เรวัติ แล้วตอนนี้มาทำลายอีกแล้วเห็นแก่ลูกหลานในอนาคตเถอะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวทิ้งท้าย..  
ที่มา  เดลินิวส์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น